10 อันดับ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี ประจำปี 2023

นาฬิกาออกกำลังกายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามและวัดกิจกรรมการออกกำลังกายของตนได้อย่างแม่นยำ ประจำปี 2023 นี้มีหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ. นับถือจากความนิยมและความเชื่อถือของผู้ใช้, นี่คือ 10 อันดับนาฬิกาออกกำลังกายยี่ห้อดีประจำปี 2023 ที่ควรพิจารณา

1. Garmin Fenix 7 Series

Garmin Fenix 7 Series เป็นนาฬิกามัลติสปอร์ตที่ทันสมัยและแข็งแกร่งจากแบรนด์ Garmin ที่มีฟังก์ชั่นมากมายและวัสดุที่ทนทาน สามารถใช้ในกิจกรรมกายภาพหลากหลายหรือในชีวิตประจำวันได้ทุกสถานการณ์

สรุปความสำคัญ:

มี 3 ขนาด: Fenix 7S (42 mm), Fenix 7 (47 mm), และ Fenix 7X (51 mm) เหมาะกับทุกขนาดข้อมือ
รุ่น Standard Edition เพิ่มการรองรับการฟังก์ชั่นเพลงและแผนที่สี
รุ่น Solar เพิ่มฟังก์ชั่นชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์
รุ่น Sapphire Solar ใช้วัสดุ Sapphire เพื่อความทนทาน
แบตเตอรี่ทนนานกว่า รุ่น Fenix 6 Series
มี 7 ฟังก์ชั่นใหม่, เช่น ระบบสัมผัสหน้าจอ, ไฟฉาย, Map Manager, Up Ahead, RealTime Stamina, เพิ่มพื้นที่รับแสงอาทิตย์, และตัวป้องกันปุ่ม
Fenix 7X มีไฟฉายในตัวเรือน, Map Manager, และ Up Ahead เพิ่มเติม
RealTime Stamina แสดงข้อมูลความแข็งแกร่งของร่างกาย
เพิ่มพื้นที่รับแสงอาทิตย์ในรุ่น Solar และตัวป้องกันปุ่มในทุกๆ รุ่น
Fenix 7 Series เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัพเกรดเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นใหม่, ส่วนคนที่พอใจกับ Fenix 6 อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรุ่น สำหรับ Fenix 5, การอัพเกรดจะเพิ่มความแตกต่างชัดเจน

2. Apple Watch Series 8

Apple Watch Series 8 เป็นอุปกรณ์สุขภาพที่ล้ำหน้ามาพร้อมกับคุณสมบัติทันสมัยต่าง ๆ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณได้อย่างครบวงจร:

เซ็นเซอร์และแอปสุขภาพทันสมัย: วัดอัตราการเต้นของหัวใจและระดับออกซิเจนในเลือด, ตรวจจับการชน, ติดตามระยะการนอน, และวัดอุณหภูมิ เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพ.
ระบบเซลลูลาร์: ใช้งานได้โดยไม่ต้องมี iPhone ใกล้เคียง, สามารถสตรีมเพลงและพ็อดคาสท์, และจัดการ Apple Watch ของครอบครัว.
WatchOS 9: มาพร้อมแอปออกกำลังกายที่ดีขึ้น, จอ Retina ขนาดใหญ่, และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน.
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ขนาด: 41mm
- ชิป: S8
- วัสดุเคส: อลูมิเนียม
- สาย: Sport Band
- จอ Retina OLED: ขนาดใหญ่, Always-On
- การตรวจวัด: อัตราการเต้นหัวใจ, ECG, GPS + Cellular
- กันน้ำ: 50 เมตร
- ชาร์จ: เร็ว, ใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมง
- ระบบ: watchOS 9
ทำไมต้อง Apple Watch:
- สุดยอดสำหรับสุขภาพและความปลอดภัย.
- ติดตามการนอน, รับความช่วยเหลือในฉุกเฉิน, และฝึกซ้อมในวิธีใหม่.
- การเชื่อมต่อที่สะดวก, ปรับแต่งลุค, และหลายคุณสมบัติที่ทำให้มีสุขภาพดี

3. Samsung Galaxy Watch 5

นาฬิกาอัจฉริยะจากเกาหลีที่มีคุณสมบัติทันสมัย, หลายฟังก์ชั่นการติดตามสุขภาพ, และดีไซน์ที่ดูดีในราคาที่เหมาะสม

หน้าปัดวงกลมขนาด 44 มม.
ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5
มีหน่วยความจำ RAM 2 GB และ ROM 16 GB
แบตเตอรี่ 410 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน
รองรับการแจ้งเตือน, การตอบกลับข้อความ, และการรับสายโทรศัพท์
มีลำโพงและไมโครโฟน
สามารถใช้งานระบบ GPS และ eSim
มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง, หัวใจ, ไฟฟ้า, และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คุณสมบัติการติดตามการออกกำลังกายที่หลากหลาย
น้ำกันได้ชั่วคราว
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC, Bluetooth
ใช้งานได้นาน 5 วันและรองรับชาร์จไว

คุณสมบัติเด่น:

หน้าจอ Super AMOLED 1.4 นิ้ว (44 มม.) หรือ 1.2 นิ้ว (40 มม.) ที่คมชัด
มีหลายสีให้เลือก
เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง, หัวใจ, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ควบคุมการออกกำลังกายและคุณสมบัติด้านอื่นๆ ที่หลากหลาย
ใช้งานได้นาน 5 วันและรองรับชาร์จไว

ระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์:

Wear OS 3.5, Exynos W920, Mali-G68
หน่วยความจำ RAM 2 GB และ ROM 16 GB
รองรับการใส่ eSIM
แบตเตอรี่ Li-ion 5 วันและรองรับชาร์จไร้สาย

4. Xiaomi Smart Band 7

Xiaomi Smart Band 7 เน้นดีไซน์ที่สวยงาม, ฟังก์ชันการติดตามสุขภาพที่ครอบคลุม, และมีราคาที่คุ้มค่า. มีความทันสมัยด้วยหน้าจอ AMOLED และฟีเจอร์การตรวจวัด SpO2 ตลอดเวลา. สามารถใช้งานทั่วไปได้นาน 15 วัน, หรือใช้งานหนักได้ 9 วัน. มีฟีเจอร์การติดตามสุขภาพและฟิตเนสหลากหลาย. รองรับการใช้งานกับแอป Mi Fitness App และ Zepp Life App. น้ำหนักเบาและมีราคาเปิดตัวที่ 1,390 บาท

Xiaomi Smart Band 7 เป็นสมาร์ทแบนด์รุ่นที่ 7 ของค่าย
มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว, รองรับโหมด Always-on Display
ความละเอียด 192 x 490 พิกเซล, ความสว่างสูงสุด 500 nits
รองรับ Watch Face มากกว่า 100+ แบบ
มีเซ็นเซอร์ PPG heart rate, accelerometer, gyroscope, SpO2, Connected GPS
แบตเตอรี่ 180mAh, ใช้งานทั่วไปได้ 15 วัน, ใช้งานหนักได้ 9 วัน
รองรับ Bluetooth 5.2
ระบบติดตามสุขภาพ: 120 โหมดฟิตเนส, ติดตาม SpO2 ต่อเนื่อง, ติดตามการนอน, ติดตามความเครียด, ติดตามสุขภาพสตรี, PAI, VO2 Max
ฟีเจอร์การแจ้งเตือนออกกำลังกาย, เวลาพัก, ปลุกเพื่อลุกขยับร่างกาย
รองรับ Mi Fitness App และ Zepp Life App
กันน้ำ 5ATM
รองรับการชาร์จแบบแม่เหล็ก
ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ขึ้นไป และ iOS 10 ขึ้นไป
ขนาด 46.5 x 20.7 x 12.25 มม.
ราคาเปิดตัว 1,390 บาท

5. Garmin Forerunner 55

Garmin Forerunner 55 เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ต้องการนาฬิกา GPS ที่ครอบคลุมทุกรายละเอียดที่สำคัญ ด้วยราคาที่คุ้มค่าและฟังก์ชั่นที่ครบถ้วน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว, Forerunner 55 น่าสนใจและไม่ทำให้ผิดหวัง

สิ่งใหม่ที่น่าสนใจ:

Daily Suggested Workouts: แนะนำการออกกำลังกายอัตโนมัติ
Track Run: บันทึกข้อมูลวิ่งกลางแจ้ง รวมทั้งระยะทางและการแบ่งรอบ
Virtual Run: ส่งสัญญาณ Pace/Heart Rate ด้วย Bluetooth & ANT+ กับ Zwift app
PacePro: กำหนดอัตราความเร็วและปรับตามสภาพแวดล้อม
Race Predictor: ประมาณเวลาในการวิ่งต่างๆ
Recovery Advisor: แนะนำช่วงเวลาในการพักฟื้น
Pool Swimming: โหมดสำหรับว่ายน้ำในสระ
Women Health Tracking: ติดตามรอบเดือนและสุขภาพสตรี
Connect IQ: รองรับแอพและวิดเจ็ตต่างๆ
เพิ่มเกณฑ์การปรังแต่ง Auto Pause
เปิดโหมด GPS ใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
Smartwatch Mode ใช้งานได้นานสูงสุด 2 สัปดาห์

ดีไซน์:

ดีไซน์ใกล้เคียงกับ Forerunner 245
สายนาฬิกา Quick Release Bands ที่สามารถเปลี่ยนได้ง่าย
หน้าจอขนาด 1.04″ ความละเอียด 208 x 208 pixels
การควบคุมด้วยปุ่มกดเท่านั้น

จุดเด่น:

ฟังก์ชั่นการวิ่งที่ครบครัน
Daily Suggested Workouts ช่วยวางแผนการออกกำลังกาย
PacePro และ Race Predictor ช่วยในการเตรียมตัวสู่การแข่งขัน
Recovery Advisor แนะนำเวลาพักฟื้น
โหมดว่ายน้ำสระสำหรับการฝึกซ้อม

6. Xiaomi Smart Band 7 Pro

Xiaomi Smart Band 7 Pro เป็นทางเลือกที่ครบวงจรและคุ้มค่า ด้วยหน้าจอที่สวยงาม, ฟังก์ชั่นกีฬาที่หลากหลาย, และความทนทานในสภาพน้ำ ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทแบนด์ที่ครอบคลุมทุกรายละเอียด

จุดเด่น:

หน้าจอ AMOLED 1.64 นิ้ว: มีความสว่างและคมชัด
โหมดกีฬา 117 ประเภท: รวมถึงฟังก์ชั่น Running Courses
GPS และระบบนำทางต่างๆ: ใช้ Beidou, GLONASS, Galileo, QZSS
ชาร์จเร็ว: หัวชาร์จแม่เหล็กชาร์จได้ถึง 40% ในเวลาเร็ว
หน้าปัดหลายรูปแบบ: มีมากกว่า 150 แบบให้เลือก
ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด 24 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 20 วัน
กันน้ำ 5ATM (50 เมตร): ทนทานในสภาพน้ำ

สิ่งที่มีในกล่อง:

Xiaomi Mi Band 7 Pro
สายชาร์จ
คู่มือการใช้งาน

การออกแบบ:

เล็กน้ำหนักเบา 20.5 กรัม
กระจกโค้ง 2.5D สัมผัสได้เต็มหน้าจอ
ความละเอียด 326 PPI

การใช้งาน:

เชื่อมต่อกับแอป Mi Fitness ผ่าน QR Code
หน้าจอแบบออนไลน์มากกว่า 150 แบบ
เปลี่ยนหน้าจอด้วยการค้างหน้าจอหรือเลือกรูปจากอัลบั้มมือถือ
ฟังก์ชันสุขภาพครบครัน

ความสะดวกในการใช้งาน:

Short Cut การตั้งค่าและวัดค่าต่างๆ ง่าย
Always On Display และปรับความสว่างอัตโนมัติ
Detect การออกกำลังกายอัตโนมัติ

7. Apple Watch SE

จุดเด่นของ Apple Watch SE:

จอภาพแบบ LTPO OLED Retina: มีความสว่าง 1,000 นิตและไม่รองรับ Always-on Display.
SiP รุ่น S5: มีโปรเซสเซอร์ Dual-core 64-bit และชิพระบบไร้สาย W3.
ความจุ 32GB: สามารถใส่เพลงจาก Apple Music ได้.
Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น: ช่วยในการนำทางและควบคุมอุปกรณ์.
เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล รุ่นที่ 2: สามารถแจ้งเตือนการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำ.
การตรวจจับการล้ม, การโทรฉุกเฉิน, และ SOS ฉุกเฉิน: เพิ่มความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน.
การเชื่อมต่อ 4G LTE, 3G UMTS, Wi-Fi, Bluetooth 5.0: สามารถใช้งานต่าง ๆ ได้แบบเชื่อมต่อ.
GPS/GNSS, เข็มทิศ, และมาตรวัดความสูง: มีฟังก์ชันการตำแหน่งและวัดความสูง.
ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร: สามารถใช้กิจกรรมทางน้ำได้.
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน: ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง.
ดีไซน์หรู: ดีไซน์เดียวกับ Apple Watch Series 6 ในราคาที่เข้าถึง.

เซ็นเซอร์สุขภาพและความเป็นส่วนตัว:

ตรวจจับการล้ม: แจ้งเตือนและข้อมูลฉุกเฉินหากมีการล้ม.
ตรวจจับการเคลื่อนไหว: ใช้สำหรับติดตามกิจกรรมการออกกำลังกายและความเคลื่อนไหว.
ตรวจจับการนอนหลับ: สามารถติดตามระยะเวลาและคุณภาพการนอน.
มีไมโครโฟนและลำโพง: ช่วยในการโทรศัพท์และประสบการณ์การใช้งานวอล์คกี้ทอล์คกี้.

watchOS 7 และ Family Setup:

watchOS 7: มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาใหม่, แอพแผนที่, VO2 Max, การตรวจจับการล้างมือ, และฟิตเนสใหม่.
Family Setup: ช่วยให้สมาชิกครอบครัวที่ไม่มี iPhone ใช้งาน Apple Watch และแชร์ข้อมูลได้.

8. SUUNTO 9 PEAK

ตัวเรือน:
- ตัวเรือนบางลงทำให้มีความกระทัดรัด และใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน
- ดีไซน์ Minimalistic Nordic ทำให้ดูหรูหรา และเบาลง 37%
- กระจก trans-reflective ขนาด 1.2 นิ้ว ทำให้แสดงผลได้ชัดเจนทั้งในที่มืดและแจ้ง
- สายนาฬิกาใหม่ “S Fit” ที่สามารถเก็บสายได้สวยงาม
แบตเตอรี่:
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
- ระบบ Fast Charge ชาร์ตเต็ม 100% ใน 1 ชั่วโมง
ฟังก์ชั่นการติดตามชีวิตประจำวัน:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัลใหม่
- การวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) แบบเรียลไทม์
- ติดตามการก้าว, แคลอรี่, ความเครียด, ความสูง, และ อุณภูมิ
ฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย:
- ระบบ GPS แบบ Snap to route ที่ช่วยในการวิ่งได้ถูกต้องแม้ในที่ที่สัญญาณ GPS ไม่ดี
- การติดตามแสดงผลของร่างกายจากแอพ TrainingPeaks
- ฟังก์ชั่น SUUNTO PLUS ที่ช่วยในการฝึกซ้อมต่าง ๆ
ฟังก์ชั่นใหม่:
- สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่านแอพ SUUNTO ได้
- สามารถปิด/เปิดเครื่องได้
สรุป:
- ดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงให้นาฬิกาดูเรียบหรูและน้ำหนักเบา
- ฟังก์ชั่นการติดตามทั้งในเรื่องของการติดตามชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายถูกพัฒนาขึ้น
- อัพเกรดแบตเตอรี่และระบบชาร์ตที่เร็วขึ้น
- สามารถใส่ได้ทั้งในกิจกรรมกีฬาและในชีวิตประจำวัน

9. Amazfit T-Rex 2

Amazfit T-Rex 2 เป็นสมาร์ทวอชใหม่จาก Amazfit ที่เน้นการผจญภัยและทนทานทุกสภาพอากาศ สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 5.0 หรือ iOS 10.0 ขึ้นไป ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอป Zepp เพื่อใช้งานร่วมกัน

รูปลักษณ์และดีไซน์:

ดีไซน์พรีเมียมที่สวยหรูหราและเหมาะกับการผจญภัย
มี 4 สี Earth Tone: Astro Black & Gold, Ember Black, Wild Green, Desrt Khaki
ขนาดตัวเรือน 47.1×47.1×13.65 มม., น้ำหนัก 66.5 กรัม
สายนาฬิกาซิลิโคนขนาด 22 มม. ยืดหยุ่นได้ 140-205 มม.
หน้าจอ AMOLED 1.39 นิ้ว, 326ppi, Corning Gorilla 3
ปุ่มควบคุมรอบตัวเรือนทั้งหมด 4 ปุ่ม

คุณสมบัติและฟีเจอร์:

158 โหมดกีฬาและโหมด Exersense จดจำการออกกำลังกาย 8 ชนิด
วัด SpO2, ความเครียด, คุณภาพการนอน, อัตราการเต้นของหัวใจ
มาตรฐานกันน้ำ 10ATM (ลึกได้สูงสุด 100 เมตร)
แบตเตอรี่ 500mAh ใช้งานได้นาน 24 วัน (ปกติ), 10 วัน (เปิด GPS)
ระบบตรวจสอบการใช้ไลฟ์สไตล์ประจำวัน เช่น การเดิน, วัดระยะทาง, แคลอรี่, คุณภาพการนอน, สภาพอากาศ
มีฟังก์ชั่นควบคุมการเล่นเพลง, ช่วยเหลือฉุกเฉิน

10. Fitbit Sense

Fitbit Sense รุ่นใหม่เป็นสมาร์ทวอทช์ล่าสุดจากแบรนด์ Fitbit ที่มาพร้อมคุณสมบัติที่หลากหลายและนวัตกรรมมากมาย เพิ่มเติมมากกว่ารุ่น Versa 3 ที่เปิดตัวพร้อมกัน โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นการติดตามสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งเครื่องมือวัดความเครียด, EDA Scan app, ติดตามอุณหภูมิผิวหนัง และการแจ้งเตือนชีพจร ที่เป็นคุณลักษณะใหม่ที่มีใน Fitbit Sense รุ่นแรก

จุดเด่นของ Fitbit Sense:

เพิ่มฟังก์ชั่น ECG ในการตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ
เพิ่มฟังก์ชั่นวัดอุณหภูมิร่างกายผ่านผิวหนัง
เพิ่มฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ
เพิ่มฟังก์ชั่นจับอัตราการหายใจขณะนอนหลับ
เพิ่มฟังก์ชั่นติดตามความเครียดแบบใหม่
เพิ่มแอป EDA Scan เพื่อติดตาม Electrodermal Activity
เพิ่มฟังก์ชั่นติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)
เปลี่ยนเซนเซอร์วัด HR ใหม่เป็น PurePulse 2.0 optical HR sensor ที่มีความแม่นยำมากขึ้น
รองรับการสั่งงานด้วยเสียงของ Google Assistance (ก่อนหน้านี้รองรับแค่ Alexa)
ในอนาคต, วางแผนรองรับการคุยโทรศัพท์ผ่านนาฬิกาโดยตรง (มีไมค์และลำโพงในตัว)
ดีไซน์สวยงาม พร้อมกระจก Gorilla Glass 3 และตัวเรือนสแตนเลสขัดเงา

ดีไซน์:

ดีไซน์สายนาฬิกา “อินฟินิตี้” ทำให้สายอ่อนนุ่มขึ้น
มี 2 สีให้เลือก (Lunar White/Soft Gold และ Carbon/Graphite)
ดีไซน์กรอบหน้าปัดอัพเกรดเพิ่มความพรีเมียม
ตัวเรือนประกอบด้วยวัสดุอลูมิเนียมที่ทนทาน
มีปุ่มซ่อนด้านซ้ายเพียง 1 ปุ่ม และใช้หน้าจอสีความละเอียดสูง

สุขภาพ:

เพิ่มเซ็นเซอร์ใหม่ ECG app สำหรับตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ
เพิ่มเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิผิวหนัง
เพิ่มฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ / ช้ากว่าปกติ
เพิ่มฟังก์ชั่นจับอัตราการหายใจ (ต่อนาที) ขณะนอนหลับ
เพิ่มฟังก์ชั่นการติดตามความเครียดแบบใหม่แบบเจาะลึก
เพิ่มแอพ EDA Scan เพื่อติดตาม Electrodermal Activity
เพิ่มฟังก์ชั่นการติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)

ออกกำลังกาย:

มีระบบ GPS ในตัวสำหรับติดตามกิจกรรม Outdoor
มีโหมดออกกำลังกายต่างๆมากกว่า 20 ชนิด
มี Fitbit Coach แนะนำท่าทางออกกำลังกาย
ระบบ Active Zone Minutes เพื่อตั้งเป้าหมายที่เข้ากับอัตราการเต้นของหัวใจ
ระบบแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ

สมาร์ทวอทช์:

รองรับการสั่งด้วยเสียงกับ Google Assistant และ Alexa
รองรับ Fitbit Pay สำหรับชำระเงิน
ควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟนและ Spotify
มี Fast Charging ชาร์จเร็ว, 12 นาทีชาร์จได้ 1 วัน
ใช้งานได้สูงสุด 6 วันโดยไม่ต้องชาร์จทุกวัน

# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี
# นาฬิกา ออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี
# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2022
# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2022 pantip
# นาฬิกาออกกําลังกาย ถูกและดี
# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023 pantip
# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023
# นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี pantip